คุณธีรยุทธ วงศ์ษา เกษตรกรชาวสวนผัก ที่ อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรี ธรรมราช ซึ่งเป็นอีกท่านหนึ่งที่ให้ความสนใจเกี่ยวกับการทำเกษตรแบบปลอดสารพิษ โดยน้อมนำหลักทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมา ปฏิบัติร่วมกับการศึกษาข้อมูลทางวิชาการจากชมรมเกษตรปลอดสารพิษเพื่อ ประโยชน์ในการประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับพื้นที่และเกิดประโยชน์สูงสุด
ในกาลนี้ คุณธีรยุทธ กล่าวว่าได้นำข้อมูลที่ได้จากการศึกษาค้นคว้าบ้าง คำ แนะนำจากนักวิชาการของชมรมฯบ้างบวกประสบการณ์ส่วนตัวเกี่ยวกับการปลูกผักกิน ใบ โดยเฉพาะ คะน้า กวางตุ้ง ผักบุ้ง เป็นต้น อาจกล่าวได้ว่าเป็นแนวคิดและวิธีการที่ดีเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน ที่ต้องประหยัดค่าใช้จ่าย ในเรื่องต้นทุนการผลิต ยกตัวอย่างเช่น
การปลูกคะน้า (เชิงการค้า)โดยมีวิธีการและแนวคิดดังนี้
-
ศึกษาความต้องการของตลาด : คะน้าที่ตลาดกลางหรือผู้บริโภคต้องกี่ขนาด อะไรบ้าง และมีแผนรองรับกรณีตลาดฝืดไม่คล่องตัว เช่น การแปรรูปเป็นสินค้าชนิดอื่น -
รู้จักกับพืชที่จะนำมาปลูก : คะน้า เป็นผักที่คนไทยทุกคนรู้จักกันดี อยู่ในตระกูล Cruciferae มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Brassica alboglabra เป็น ผักที่นิยมปลูกทั่วทุกภาค เพื่อบริโภคส่วนของใบและลำต้น ซึ่งมีอายุตั้งแต่หว่านหรือหยอดเมล็ดจนถึงเก็บเกี่ยวประมาณ 45-55 วัน ที่สำคัญสามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี แต่ช่วงที่ให้ผลผลิตดีที่สุดอยู่ช่วงประมาณเดือนตุลาคมถึงเมษายน และนอกจากนี้คะน้าเป็นผักที่สามารถขึ้นได้ในดินแทบทุกชนิดที่มีความอุดม สมบูรณ์สูงมีความเป็นกรดเป็นด่าง (pH) ของดินอยู่ ระหว่าง 5.5 - 6.8 และมีความชื้นในดินสูงสม่ำเสมอ มีความต้องการแสงแดดเต็มที่ คะน้าสามารถเจริญเติบโตและให้ผลผลิตได้ดีเป็นที่น่าพอใจ ช่วงอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 20 – 25 องศาเซลเซียส -
การเตรียมดินปลูก : เนื่อง จากคะน้าเป็นผักที่หยั่งรากตื้น จึงควรขุดดินหรือไถพรวนลึกประมาณ 15-20 เซนติเมตร ก่อนทำการไถพรวนควรฉีดพ่นเชื้อไตรโคเดอร์ม่าให้ทั่วแปลงเสียก่อนเพื่อ ป้องกันหรือกำจัดเชื้อฟัยท๊อปเทอร์ร่า ( เชื้อสาเหตุ : ราก เน่าโคนเน่า ) ตากดินทิ้งไว้ประมาณ 7-10 วัน แล้วนำปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักที่สลายตัวดีแล้ว (แห้ง) มาผสมกับภูไมท์ซัลเฟตเหลือง (ผง) ในอัตรา 10 : 2 ส่วนตามลำดับ หว่านให้ทั่วแปลงก่อนทำการไถกลบพรวนย่อยหน้าดินให้มีขนาดเล็ก ( เพื่อปรับปรุงโครงสร้างเพิ่มธาตุอาหารในดิน ) เพื่อสะดวกในการหว่านเมล็ดลงแปลงและไม่ตกลึกลงไปในดิน เพราะจะไม่งอกหรืองอกยาก
** หมายเหตุ : วิธีการหมักเชื้อไตรโคเดอร์ม่า เพื่อลดต้นทุน นำเชื้อไตรโคเดอร์ม่า 1 ช้อนแกง + น้ำเปล่า 20 ลิตร+ กากน้ำตาล/ น้ำตาลทรายแดง 1 กก. หมักทิ้งไว้ 8 ชั่วโมง แล้วนำไปผสมน้ำเปล่า 200 ลิตร ก่อนทำการฉีดพ่น
-
การดูแลรักษา
การให้น้ำ : คะน้า เป็นพืชที่ต้องการน้ำอย่างเพียงพอและสม่ำเสมอเพราะต้นคะน้ามีการเจริญเติบโต อย่างรวดเร็ว ดังนั้นการปลูกคะน้าจึงต้องปลูกในแหล่งที่มีน้ำเพียงพอตลอดฤดูปลูก หากคะน้าขาดน้ำจะทำให้ชะงักการเจริญเติบโตและคุณภาพไม่ดีเท่าที่ควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระยะที่เมล็ดเริ่มงอกยิ่งขาดน้ำไม่ได้เลย การให้น้ำควรให้แบบพ่นฝอยให้ชุ่มโชกทั่วแปลง วันละ 2 เวลา คือช่วงเช้าและเย็น
การใส่ปุ๋ย : เนื่องจากคะน้าเป็นผักกินใบและลำต้นจึงควรใส่ปุ๋ยที่มีธาตุไนโตรเจนสูง สัดส่วนของธาตุอาหารในปุ๋ยที่ใช้คือ N:P:K เท่ากับ 2:1:1 เช่น ปุ๋ยสูตร 12-8-8 หรือ 20-11-11 แบ่งออกเป็น 2 ครั้ง โดยแต่ครั้งให้นำภูไมท์ซัลเฟตเหลืองมาผสมด้วย ในอัตรา 5 : 2 ส่วนตามลำดับ ( ช่วยในการประหยัด เพิ่มธาตุอาหารให้กับพืช ) คือ 1.ใส่หลังจากการถอนแยกครั้งที่ 1 2.หลังจากถอนแยกครั้งที่ 2 อย่างไรก็ตามหากสังเกตเห็นว่าผักที่ปลูกไม่ค่อยเจริญเติบโตเท่าที่ควรอาจจะใส่ปุ๋ยบำรุงเพิ่มเติม เช่น ปุ๋ยยูเรีย (46 -0 -0 ) ปุ๋ยแอมโมเนียมไนเตรท โดยให้ทางรากหรือละลายน้ำในอัตราประมาณ 3-4 ช้อนแกงต่อน้ำ 1 ปี๊บ ฉีดพ่นทางใบ
-
การเก็บเกี่ยวผลผลิต
1.คะน้ามีอายุประมาณ 20 วัน หรือต้นสูงประมาณ 10 เซนติเมตร ให้เริ่มทำการถอนแยกโดยเลือกถอนต้นที่แน่นเกินไปออก ให้เหลือห่างระหว่างต้นไว้ประมาณ 10 เซนติเมตร ส่งขายตลาดเป็นเศษผัก
2.คะน้ามีอายุประมาณ 30 วัน จึงทำการถอนแยกโดยให้เหลือห่างระหว่างต้น 20 เซนติเมตร ส่งขายตลาดเป็นยอดผัก ซึ่งผู้บริโภคนิยมรับประทานเป็นยอดผักเพราะอ่อนและอร่อย
3.คะน้ามีอายุประมาณ 45 -55 วัน
- คะน้าอายุ 45 วัน เป็นระยะที่ตลาดมีความต้องการมาก
- คะน้าที่มีอายุ 50-55 วันเป็นระยะที่เก็บเกี่ยวได้น้ำหนัก
ในการเก็บเกี่ยวควรใช้มีดปลายแหลมตัดให้ชิดโคนต้น การตัดควรตัดไล่เป็นหน้ากระดานไป เมื่อตัดแล้วนำมามัด ๆ ละ 5 กิโลกรัม หรือบรรจุลงเข่งโดยไม่ต้องมัด ทั้งนี้ก็เพื่อความสะดวกในการขนส่งและซื้อ – ขาย
การเก็บเกี่ยวคะน้าให้ได้คุณภาพ ความสด รสดีและสะอาดนั้นควรปฏิบัติดังนี้
1. เก็บผักในเวลาเช้าดีกว่าเวลาบ่าย
2. ควรใช้มีดเล็กๆ ตัด อย่าเก็บหรือเด็ดด้วยมือ
3. อย่าปล่อยให้ผักแก่เกินไป
4. ผักที่แสดงอาการไม่ปกติควรรีบเก็บเสียก่อน
5. เมื่อเก็บเกี่ยวเสร็จแล้วควรรีบนำเข้าร่มในที่อากาศโปร่งและเย็น
6. ภาชนะที่ใช้บรรจุผักคะน้าควรล้างให้สะอาด
สรุปว่า : การปลูกคะน้าในแต่ละฤดูปลูกสามารถขายได้ 3 ครั้ง คือ เมื่อคะน้าอายุ 20 วัน , 30 วัน, 45-55 วัน ตามลำดับ
-
แนวทางการป้องกันรักษาโรคและแมลงศัตรูในคะน้า
1.โรคเน่าคอดินของคะน้า
สาเหตุ : เกิดจากเชื้อรา Pythium sp. หรือ Phytophthora sp. เป็น โรคที่เกิดขึ้นเฉพาะในแปลงต้นกล้าเท่านั้น เนื่องจากการหว่านเมล็ดที่แน่นทึบ อับลม และต้นเบียดกันมาก ถ้าในแปลงมีเชื้อโรคแล้วต้นกล้าจะเกิดอาการเป็นแผลช้ำที่โคนต้นระดับดิน เนื้อเยื่อตรงแผลจะเน่าและแห้งไปอย่างรวดเร็ว ถ้าถูกแสงแดดทำให้ต้นกล้าหักพับ ต้นเหี่ยวแห้งตายในเวลารวดเร็ว บริเวณที่เป็นโรคจะค่อยๆ ขยายกว้างออกไปเป็นวงกลม ภายในวงกลมที่ขยายออกไปจะไม่มีต้นกล้าเหลืออยู่เลย ส่วนกล้าที่โตแล้วจะค่อยๆ เหี่ยวตายไป
การป้องกันกำจัด : ไม่ หว่านเมล็ดคะน้าให้แน่นเกินไป ควรใช้เชื้อไตรโคเดอร์ม่า หมัก ( หมายเหตุ ข้างต้น) ฉีดพ่นให้ทั่วแปลงปลูก ทุกๆ 3-4 วัน/ครั้ง ร่วมกับทำทางระบายน้ำป้องกันน้ำขังแฉะในแปลงช่วงที่เป็นต้นกล้า
2.โรคราน้ำค้างของคะน้า
สาเหตุ : เกิดจากเชื้อรา Peronospora parasitica ใบ จะเป็นจุดละเอียดสีดำอยู่รวมกันเป็นกลุ่มเล็กๆ ด้านใต้ใบ ตรงจุดเหล่านี้จะมีราสีขาวอมเทาอ่อนคล้ายผงแป้งขึ้นเป็นกลุ่มๆ กระจายทั่วไป ใบที่อยู่ตอนล่างๆ จะมีแผลเกิดก่อนแล้วลุกลามขึ้นไปยังใบที่อยู่สูงกว่า ใบที่มีเชื้อราขึ้นเป็นกลุ่มกระจายเต็มใบจะมีลักษณะเหลืองและใบจะร่วงหรือ แห้ง ในเวลาที่อากาศไม่ชื้นจะไม่พบผงแป้งและแผลแห้งเป็นสีเทาดำ โรคนี้ระบาดได้ทั้งแต่ระยะที่เป็นต้นกล้าจนเจริญเติบโตเต็มที่ ซึ่งจะทำความเสียหายมากเพราะทำให้ใบเสียมากและเจริญเติบโตช้า โรคนี้ไม่ทำให้ต้นคะน้าตาย แต่ทำให้น้ำหนักลดลง เพราะต้องตัดใบที่เป็นโรคทิ้ง ทำให้ได้น้ำหนักน้อยลง
การป้องกันกำจัด : ควร ใช้บาซิลลัส พลายแก้ว 5 กรัม หมักด้วยน้ำมะพร้าว 1 ผล หลังหมัก 24 ชั่วโมง ผสมน้ำเปล่า 20 ลิตร ฉีดพ่นทุก ๆ 3-4 วันกรณีรุนแรง หรือ ฉีดสลับกับสารสกัดแซนโธไนท์ ( เปลือกมังคุด ) ร่วมกับฟังกัสเคลียร์ ( สารจุลสี )
3.โรคแผลวงกลมสีน้ำตาลไหม้
สาเหตุ : เกิดจากเชื้อรา Alternaria sp. ใบ แก่ที่อยู่ตอนล่างของลำต้นจะเป็นโรคนี้มาก ใบที่เป็นโรคจะมีแผลวงกลมสีน้ำตาลซ้อนกันหลายชั้น เนื้อเยื่อรอบๆ แผลเปลี่ยนเป็นสีเหลืองขนาดของแผลมีทั้งใหญ่และเล็ก บนแผลมักจะมีเชื้อราขึ้นบางๆ มองเห็นเป็นผงสีดำ เนื้อเยื่อบุ๋มลงไปเล็กน้อย
การป้องกันกำจัด : ควร ใช้บาซิลลัส พลายแก้ว 5 กรัม หมักด้วยน้ำมะพร้าว 1 ผล หลังหมัก 24 ชั่วโมง ผสมน้ำเปล่า 20 ลิตร ฉีดพ่นทุก ๆ 3-4 วันกรณีรุนแรง หรือ ฉีดสลับกับสารสกัดแซนโธไนท์ ( เปลือกมังคุด ) ร่วมกับฟังกัสเคลียร์ ( สารจุลสี )
4.หนอนกระทู้ผัก
หนอนกระทู้ผัก Spodoptera litura ตัวเต็มวัยเป็นผีเสื้อกลางคืน เมื่อกางปีกกว้างประมาณ 3 เซนติเมตร ลำตัวยาว 1.5 เซนติเมตร ปีกคู่หน้ามีจุดสีน้ำตาลเข้ม มีลวดลายเต็มปีก ส่วนปีกคู่หลังสีขาวและบาง ลำตัวมีขนสีน้ำตาลอ่อนปกคลุมอยู่ ตัวเมียวางไข่เป็นกลุ่มๆ ตัวเมียวางไข่ได้ประมาณ 200-300 ฟอง โดยมีขนสีน้ำตาลปกคลุมไข่ไว้ ไข่ใหม่ๆ จะมีสีขาวนวลและจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลและสีดำเมื่อใกล้ฟักออกเป็นตัวหนอน ไข่มีอายุประมาณ 3-7 วัน ตัวหนอนเมื่อออกจากไข่ใหม่ๆ จะมีสีเขียวอ่อนหรือสีนวลรวมกันเป็นกลุ่มตรงที่ไข่ฟักออกนั้น หนอนส่วนมากจะออกหากินในเวลากลางคืน ระยะตัวหนอนประมาณ 15-20 วัน จากนั้นจะเข้าดักแด้ตามใต้ผิวดิน ดักแด้มีสีน้ำตาลดำ ยาวประมาณ 1.50-1.80 เซนติเมตร ระยะดักแด้ประมาณ 7-10 วัน จึงเจริญเป็นตัวเต็มวัย
ลักษณะการทำลาย : โดย หนอนจะกัดกินใบและก้านใบของคะน้า มักจะเข้าทำลายเป็นหย่อมๆ ตามจุดที่ผีเสื้อวางไข่ หนอนชนิดนี้สังเกตได้ง่ายคือ ลำต้นอ้วนป้อม ผิวหนังเรียบ คล้ายหนอนกระทู้หอม มีสีสันต่างๆ กัน มีแถบสีขาวข้างลำตัวแต่ไม่ค่อยชัดนัก เมื่อโตเต็มที่จะมีขนาดประมาณ 3-4 เซนติเมตรเคลื่อนไหวช้า
การป้องกันกำจัด : หมั่น ตรวจดูสวนผักบ่อยๆ เมื่อพบให้ทำลายเสีย หรือ ใช้เชื้อบีที – ชีวภาพ 5 กรัม+ไข่ไก่ 5 ฟอง +น้ำเปล่า 15 ลิตร+น้ำมันพืช 1.5 -2 ช้อนชา+สเม็คไทต์ 5 ขีด หลังหมักโดยให้อากาศแบบในตู้ปลา 24 ชั่วโมง ผสมน้ำเปล่าหรือน้ำละลายภูไมท์ 100 ลิตร ฉีดพ่นทุก ๆ 3 วัน กรณีรุนแรง ควบคู่กับการใช้ไทเกอร์เฮิร์ป 5-10 กรัมผสมน้ำ 20 ลิตร เพื่อป้องกันแม่ผีเสื้อกลางคืนกลับมาวางไข่
5.หนอนคืบกะหล่ำ
หนอนคืบกะหล่ำ Trichoplusia ni ตัวเต็มวัยเป็นผีเสื้อขนาดกลาง กางปีกเต็มที่ยาว 3 เซนติเมตร สีเทาดำ กลางปีกคู่หน้ามีจุดสีขาวข้างละ 1 จุด แม่ผีเสื้อจะวางไข่สีขาวนวลใต้ใบเม็ดกลมเล็กๆ ไข่จะถูกวางเดี่ยวๆ ทั่วไป ไข่มีอายุ 3 วันจึงฟักออกเป็นตัวหนอน หนอนที่มีขนาดเล็กจะแทะผิวใบด้านล่าง หนอนในระยะนี้มีสีใส ต่อมามีสีเข้มขึ้น เมื่อโตเต็มที่มีสีซีดลง มีสีขาวพาดยาว หนอนเมื่อโตเต็มที่ยาว 4 เซนติเมตร อายุหนอนประมาณ 2 สัปดาห์ จึงเข้าดักแด้ ดักแด้จะอยู่ใต้ใบคลุมด้วยใยบางๆ สีขาว ดักแด้ในระยะแรกจะมีสีเขียวอ่อน ต่อมามีบางส่วนเป็นสีน้ำตาล มีขนาดยาวเกือบ 2 เซนติเมตร อายุดักแด้ประมาณ 1 สัปดาห์ จึงเข้าระยะตัวเต็มวัย ซึ่งตัวเต็มวัยมีชีวิตอยู่ได้ประมาณ 1 สัปดาห์
ลักษณะการทำลาย : หนอน คืบกะหล่ำเป็นหนอนที่กินจุ เข้าทำลายคะน้าในระยะที่เป็นตัวหนอน โดยจะกัดกินเนื้อใบจนขาดและมักจะเหลือเส้นใบไว้หนอนชนิดนี้เมื่อเกิดระบาด แล้วจะแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วมาก
การป้องกันกำจัด : หมั่น ตรวจดูไข่หรือตัวหนอนในระยะเล็กๆ หากพบควรใช้ เชื้อบีที – ชีวภาพ 5 กรัม+ไข่ไก่ 5 ฟอง +น้ำเปล่า 15 ลิตร+น้ำมันพืช 1.5 -2 ช้อนชา+สเม็คไทต์ 5 ขีด หลังหมักโดยให้อากาศแบบในตู้ปลา 24 ชั่วโมง ผสมน้ำเปล่าหรือน้ำละลายภูไมท์ 100 ลิตร ฉีดพ่นทุก ๆ 3 วัน กรณีรุนแรง ควบคู่กับการใช้ไทเกอร์เฮิร์ป 5-10 กรัมผสมน้ำ 20 ลิตร เพื่อป้องกันแม่ผีเสื้อกลางคืนกลับมาวางไข่
หากเกษตรกรท่านใด สนใจอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวการปลูกผักคะน้าปลอดสารพิษ สามารถติดต่อได้ที่ คุณธีรยุทธ วงศ์ษา เลขที่ 159 ม.16 ต.ร่อนพิบูลย์ อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช 80130 โทร.081-8226588 หรือ ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ 02-9861680 , 081-3983128 หรือ email : thaigreenagro.com
plant2pet : ร้านค้า จำหน่ายเมล็ดพันธุ์พืช online www.plant2pet.com
จำหน่ายเมล็ดพันธุ์พืช แบบซอง
จำหน่าย ยาถ่ายพยาธิ สำหรับสุนัขและแมวคุณภาพสูง
จำหน่ายเมล็ดพันธุ์พืช แบบซอง
จำหน่าย ยาถ่ายพยาธิ สำหรับสุนัขและแมวคุณภาพสูง
@@@ ร้านเรามี เมล็ดพันธุ์พืช คุณภาพสูง ราคาไม่แพง จำหน่าย@@@
เมล็ดพันธุ์ผักแบบซอง ราคาซองละ 15 บาท มีหลายชนิด เช่น ผักชี พริกขี้หนู ถั่วฝักยาว ผักกาดขาว และ อีกมากมาย
เมล็ดดอกไม้ แบบซอง ราคาซองละ 20 บาท เช่น ดาวเรือง ดาวกระจาย ดอกทานตะวัน ดอกเบญจมาศ
เมล็ดดอกไม้ แบบซอง ราคาซองละ 20 บาท เช่น ดาวเรือง ดาวกระจาย ดอกทานตะวัน ดอกเบญจมาศ
e-mail : plant2pet@gmail.com
Tel : 089-992-1777 , 02-395-0070
BB pin : 22299B2B
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น