วันอังคารที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2553

"ผักสวนครัวรั้วกินได้" ฝ่าวิกฤติยุคข้าวยากหมากแพง

จากสถานการณ์การเกิดสภาวะเงินเฟ้อในประเทศ ซึ่งขณะนี้อยู่ที่ 9% และราคาน้ำมันที่ขยับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ได้ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้นทุกด้าน ในขณะที่รายได้เท่าเดิมหรือลดลง ดังนั้นเพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในครัวเรือนของประชาชน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมการเกษตร เร่งดำเนินโครงการปลูกผักสามัญประจำบ้านเพื่อลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนของ ชุมชนเมืองขึ้น เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนในกรุงเทพมหานครและเขตปริมณฑลปลูกผักไว้บริโภคใน ครัวเรือน เป็นการลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนและส่งเสริมสุขภาพที่ดีให้แก่ผู้บริโภค

 นอก จากนี้ ยังสนับสนุนให้มีการนำวัสดุ ภาชนะเหลือใช้มาใช้ให้เกิดประโยชน์ในการปลูกผัก รวมทั้งใช้พื้นที่ว่างในบ้านให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองด้วย โดยกรมส่งเสริมการเกษตรจะจัดอบรมให้ความรู้เรื่องการปลูกผักประจำบ้านให้กับ ประชาชนที่สนใจและมีพื้นที่ปลูกพืชผักสวนครัวไว้บริโภคเองในครัวเรือน พร้อมทั้งสนับสนุนกล้าผักแก่ผู้เข้าร่วมโครงการเพื่อนำไปปลูกในบ้านหลังการ ฝึกอบรม

 สำหรับ พืชผักที่ส่งเสริมให้ประชาชนปลูก จะเน้นเป็นพืชผักที่ใช้เป็นประจำในครัวเรือน ได้แก่ พริกขี้หนู มะเขือเปราะ กระเพรา โหระพา และมะละกอ ซึ่งขณะนี้ทางศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร (ศูนย์พันธุ์พืชเพาะเลี้ยง) ของกรมส่งเสริมการเกษตรได้เตรียมกล้าพันธุ์ผักไว้จำนวนหนึ่งแล้ว เพื่อให้เพียงพอที่จะแจกจ่ายให้กับประชาชน โดยเบื้องต้นตั้งเป้าหมายดำเนินการให้แก่ประชาชนผู้สนใจจำนวนทั้งสิ้น 50,000 ราย ในพื้นที่ 4 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร 12,000 ราย นนทบุรี 15,000 ราย ปทุมธานี 10,000 ราย และสมุทรปราการ 13,000 ราย

 นายทรงศักดิ์ วงศ์ภูมิวัฒน์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวถึงขั้นตอนการดำเนินงานโครงการปลูกผักสามัญประจำบ้านเพื่อลดค่าใช้จ่าย ในครัวเรือนของชุมชนเมืองว่า ทางกรมส่งเสริมการเกษตรจะจัดทำหลักสูตรการฝึกอบรมโครงการดังกล่าว และแผ่นพับคำแนะนำการปลูกผัก จำนวน 100,000 ฉบับ พร้อมเปิดตัวโครงการ โดยประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ ให้ผู้สนใจใน 4 จังหวัดได้รับทราบ และสมัครเข้าร่วมโครงการ ซึ่งการเปิดรับสมัครผู้สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้ที่สำนักงานเกษตร กรุงเทพมหานคร สำนักงานเกษตรจังหวัดนนทบุรี สำนักงานเกษตรจังหวัดปทุมธานี และสำนักงานเกษตรจังหวัดสมุทรปราการ จากนั้นกรมส่งเสริมการเกษตรจะจัดเตรียมกล้าผักและส่งมอบให้กับทางสำนักงาน เกษตรจังหวัด เพื่อให้ทางสำนักงานเกษตรจังหวัดได้วางแผนการถ่ายทอดเทคโนโลยี สร้างจุดสาธิต พร้อมทั้งฝึกอบรมให้ความรู้แก่ผู้เข้าร่วมโครงการ ก่อนที่จะรับกล้าพันธุ์ผักไปไว้ปลูกในครัวเรือนต่อไป

 ส่วนหลักสูตรการถ่ายทอดเทคโนโลยีเรื่อง การปลูกผักประจำบ้านเพื่อลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนของชุมชนเมืองจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ภาคการบรรยาย ในหัวข้อผักกับเศรษฐกิจ วัสดุ อุปกรณ์ที่จำเป็นในการปลูกผัก เทคนิคการปลูกผักในพื้นที่ว่าง พันธุ์และแหล่งพันธุ์ เทคนิคการเลือกชนิดผักให้เหมาะสม การเลือกสถานที่/ภาชนะปลูก การเพาะกล้าและย้ายกล้า การปลูก การดูแลรักษา การเก็บเกี่ยว รวมทั้งการเลือกรับประทานผักให้มีคุณค่าสูงสุด และ ภาคการสาธิต ได้แก่ การทดสอบความงอกของเมล็ดพันธุ์ เทคนิคการเพาะกล้า เทคนิคการคัดกล้าที่แข็งแรง สมบูรณ์ การทำดินผสมสำหรับการปลูกผัก การเตรียมภาชนะสำหรับปลูก การย้ายต้นกล้า การต่อเชื้อไตรโครเดอร์มา และการทำน้ำปูนใส เป็นต้น

 ทั้ง นี้ คาดหมายว่าการจัดทำโครงการดังกล่าวจะทำให้ประชาชนได้รับความรู้และเรียนรู้ เรื่องการปลูกผักชนิดต่างๆ ด้วยวิธีง่ายๆ สามารถช่วยลดรายจ่ายในครอบครัวด้านค่าอาหารให้กับประชาชนที่เข้าร่วมโครงการ จำนวน 50,000 ครอบครัว ได้อย่างน้อยครอบครัวละ 120 บาทต่อเดือน หรือคิดเป็นมูลค่าไม่น้อยกว่า 72 ล้านบาทต่อปี และมีการนำภาชนะ วัสดุเหลือใช้มาใช้ให้เกิดประโยชน์ ก่อให้เกิดสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้นในชุมชน โดยโครงการปลูกผักสามัญประจำบ้านเพื่อลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนของชุมชนเมือง จะเริ่มดำเนินการตั้งแต่บัดนี้จนถึงเดือนกันยายน 2551 เพื่อรองรับความต้องการของคนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ก่อนที่จะขยายสู่ประชาชนทั่วประเทศต่อไป หากประชาชนที่สนใจสามารถติดต่อขอเข้าร่วมโครงการได้กับสำนักงานเกษตรจังหวัด ทั้ง 4 แห่งข้างต้น โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่กลุ่มส่งเสริมการผลิตผัก สำนักส่งเสริมและจัดการสินค้าเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร โทร. 0-2940-6106 และ 0-2579-3542 
ที่มา ; หนังสือพิมพ์แนวหน้าฉบับวันที่ 17 กรกฎาคม 2551

เมล็ดพันธุ์ผัก แบบซอง  ราคาซองละ 15 บาท มีหลายชนิด เช่น  ผักชี  พริกขี้หนู  ถั่วฝักยาว  ผักกาดขาว และ  อีกมากมาย    
  เมล็ดดอกไม้ แบบซอง  ราคาซองละ 20 บาท  เช่น  ดาวเรือง  ดาวกระจาย  ดอกทานตะวัน  ดอกเบญจมาศ
สนใจติดต่อสอบถามได้ตามนี้ครับ
Tel : 089-992-1777 , 02-395-0070
BB pin : 22299B2B
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น